วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

MV ภาวนา

กล้วยบวชชี


ขั้นที่เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
        เตรียมกล้วยให้พร้อมทำ โดยการปลอกเปลือกแล้วผ่าแบ่งส่วนตามชอบ ซึ่งการทำกล้วยบวดชีให้ อร่อยตาย นั้น จำเป็นต้องเลือกกล้วยที่สุกงอมมาก ๆ กล้วยบวดชีจะนิ่มเละ หวานอร่อยได้ใจคนทำ ตอนซื้อ ผมบอกเจ้าของแผงขายกล้วยว่า "เอากล้วยที่สุกที่สุดในร้านนะ" เห็นมองตามถังขยะเล็กน้อย ก่อนแน่ใจว่าเทศบาลมาเก็บกล้วยเน่าไปหมดแล้ว ถึงได้เลือก หวีที่สุกที่สุดในร้านมาให้ (555) กลับมาเรื่องหั่นกล้วยกันต่ออีกนิด หั่นตามทรงที่คุณชื่นชอบ ส่วนใหญ่เราสิ้นคิดจะเลือกเหมือนทรงที่เราเคยกิน อันนี้ใครจะหั่นแบบซูชิ หรือ ซาซิมิ ก็ได้ ไม่มีการประท้วง ขับไล่ออกจากรัฐบาลแต่อย่างใด

 ขั้นที่ 2 ตั้งไฟใส่กะทิ,เกลือ เคี่ยวไฟอ่อน
        ใช้หม้อขนาดกลาง ๆ ครับ กล้วยหวีเดียวคงไม่ต้องใช้หม้อขนาดหม้อแกง เริ่มด้วยการใส่กะทิ หมดกล่องเลยครับ แล้วใส่ เกลือประมาณ 1 - 1.5 ช้อนชา ใส่น้ำตาลไปประมาณ 3 ช้อนแกงพูน ๆ ( จริง ๆ น้ำตาลใส่มากใส่น้อยตามชอบครับ) ต้องตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ ประมาณ 10 นาทีได้ จริง ๆต้องดูกะทิครับว่าเริ่มแตกมันหรือยัง ที่แตกมันคือสีมันจะเริ่มเปลี่ยนไป มีฟองกะทิ กับคราบมากขึ้น 

 ขั้นที่ 3 ใส่กล้วย
        หลังจากกะทิแตกมันกลิ่นหอมแล้ว ได้วาระดิถีอันมีมงคลฤกษ์ ให้นำกล้วยที่ได้หั่นเตรียมไว้ ลงหม้อ

 ขั้นที่ 4 เคี่ยวจนได้ที่
        หลังจากใส่ครบสูตรแล้วเราตั้งไฟอ่อน ๆ เลยครับ 40 นาที ขั้นต่ำ เติมน้ำได้ตามชอบถ้าไฟแรงทำน้ำแห้งไป เราชิมเป็นระยะได้ครับ เติมน้ำตาลกับเกลือ ได้ตามชอบครับ กล้วยบวดชี่ที่อร่อยต้องออกรสเค็มมันหวาน ครับ จะโดดรสใดรสหนึ่งมาก ๆ เลยจะไม่อร่อย ต้องออก 3 รสรวม ๆ กัน การดูกล้วยสุกหรือไม่ให้ดูที่สีครับ สีเดิมจะเหลือง หากสุกจะออกสีขาวมากกว่าสีเหลืองครับ ถ้ากล้วยงอม จะงอตัว เรื่อย ๆ สังเกตุดูเนื้อกล้วยครับว่ากะทิแทรกเข้าไปหรือยัง หลังเคี่ยวไป 40
นาที กลิ่นจะเริ่มเข้าที่ สีจะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ จากขาว เป็นเทา กล้วยจะมีเส้นใยหลุด บางส่วน ให้ชิมน้ำ ว่ารสชาติได้ที่หรือยัง
หลังจากสุกแล้วก็ดับไฟ เวลาสั้นยาวของการเคี่ยวอาจจะนานกว่านี้ได้อีกครับ พอดับไฟก็ปล่อยให้เย็นเล็กน้อย แล้วทานได้เลย

สมุนไพรรักษาสิว


สิวได้แก่
ว่านหางจรเข้ล้างหน้าเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ใช้วุ้นจากใบสดทาบริเวณที่มีอาการ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ปล่อยให้แห้งโดยไม่ต้องล้างออก
ข้อควรระวัง ต้องล้างยางสีเหลืองจากขอบใบออกให้หมดก่อนใช้ เนื่องจากมีฤทธิ์ระคายเคืองมาก อาจทำให้เกิดการแพ้ สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย อาจทดลองทาวุ้นบริเวณท้องแขนดูก่อน หากมีผื่นแดงหรือคันไม่ควรใช้ทาหน้า



"มังคุด"ผลไม้ที่ถูกยกย่องให้เป็น ราชินีของผลไม้ แต่นอกเหนือจากความอร่อยของเนื้อในมังคุดแล้ว เปลือกของมังคุดนั้น คนไทยเรายังได้รู้จักนำเอาเปลือกไปใช้ประโยชน์เป็นยารักษาโรคมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาเปลือกมังคุดมาใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ท้องร่วง สรรพคุณที่โดดเด่นของเปลือกมังคุดที่เรารู้จักใช้กันมานานคือการใช้เปลือกมังคุดในการรักษาโรคผิว สิวต่างๆ บรรเทาอาการผดผื่น โดยใช้เปลือกมังคุดแห้งมาต้มน้ำอาบ หรือใช้น้ำต้มเปลือกมังคุดทาบริเวณที่มีอาการ และด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้เอง เปลือกมังคุดจึงถูกดึงมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สบู่ที่ช่วยบรรเทาโรคผิวหนัง สบู่รักษาสิวฝ้า ซึ่งเป็นที่นิยม





สมุนไพร
สมุนไพร
ที่มีผลการวิจัยรองรับมาก มาย ทั้งการศึกษาในสัตว์ ทดลองและในคน โดยพบว่าสารในบัวบกมีฤทธิ์ในการรักษาแผลกระตุ้น การสร้าง
ที่ใช้
collagen เร่งขบวนการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ จึงช่วยเร่งให้แผลหายเร็วขึ้น และมีประโยชน์ในการรักษาแผลเป็นและ keloid โดยสามารถลดการเกิดfibrosis จึงช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นได้


สารสกัดบัวบกยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอาการแพ้ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหรืออักเสบ เนื่องจากแมลงกัดต่อย และลดอาการข้ออักเสบในคนไข้ได้อีกด้วย จากผลการทดลองใช้ครีมบัวบกทาแผลอักเสบหลังผ่าตัด พบว่าช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น


นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ สารสกัดน้ำบัวบกมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ S.aureus และเชื้ออื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดหนองได้ โดยผลต่อการเรียนรู้สารสกัดน้ำของบัวบก ขนาด 200 มก./กก. สามารถทำให้การเรียนรู้และความจำของหนูทดลองดีขึ้น ทั้งยังพบว่าสารสกัดบัวบกช่วยเพิ่มความสามารถ ในการเรียนรู้ของหนูที่มีอาการอัลไซเมอร์ได้

จากการวิจัยของ รศ.ดร.วันดี กฤษณพันธ์ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าบัวบกชนิดก้านขาว ให้สารสกัดน้อยกว่าบัวบก ชนิดก้านแดง โดยบัวบกทั้งสองชนิด ประกอบด้วยสารสำคัญ asiaticoside และสารอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้ศึกษาวิจัยการ นำสารสกัดบัวบกมาผลิต เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิด
โดยพบว่าผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสกัดบัวบก ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยในการสมานผิว ป้องกันรอยแผลเป็น ช่วยลดความหยาบกร้านของผิว และลดการสะสมของแบคทีเรียได้อย่างดี บัวบกที่มีฤิทธิ์ฆ่าเชื้อ เมื่อใช้แต้มหัวสิว จากการทดลองในกลุ่มตัวอย่าง พบว่าทำให้สิวแห้งและหายเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ


โคลน
100%


ลีกลงไปในใต้พื้นพิภพปฐพี ลี้ลับด้วยทะเลสาบใต้ดินที่แท้คือสายน้ำแร่อันทรงคุณค่าที่มนุษย์ค้นหา และพบว่าตะกอนโคลนที่ปนเปื้อนมากับน้ำใต้พิภพนั้นช่วยสร้างสรรค์ผิวพรรณให้ผุดผ่อง และช่วยการหมุนเวียนของโลหิตให้ชีวิตสดใสใครเลยจะรู้ว่า ทั้งปฐพีมีแหล่งโคลนเช่นนี้อยู่เพียงสามแห่งเท่านั้นในโลก และหนึ่งในสามแหล่งนั้น นั่นคือ ภูโคลน แหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทย...ภูโคลน จ.แม่ฮ่องสอน

จากแหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทย ภูโคลน สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากธรรมชาติสำหรับคุณ ภูโคลนคือแหล่งน้ำแร่และโคลนธรรมชาติ ที่มาจากสายน้ำแร่ใต้พื้นดินที่มีความร้อนตั้งแต่ 60-140 องศาเซลเซียส เป็นโคลนเดือดบริสุทธิ์สีดำที่ขึ้นมาพร้อมกับสายน้ำแร่ธรรมชาติที่สะอาดไม่มีกลิ่นของกำมะถันซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนัง และระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์

คุณสมบัติ
โคลนสุขภาพ ใช้เพื่อผิวพรรณที่สะอาดใส เนียนนุ่ม
โดยมีคุณสมบัติสามารถดูดซับความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรก
ที่ติดตามรูขุมขนอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด สิว สิวเสี้ยน และริ้วรอยหมองคล้ำ
อีกทั้งส่วนผสมของแร่ธาตุที่สำคัญยังเป็นอาหารบำรุงเซลล์ผิว
และช่วยกระตุ้นให้เซลส์ผิวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อหน้าไม่มันปัญ

รายละเอียด คำแนะนำและวิธีใช้
โคลนสุขภาพ เพื่อผิวพรรณสะอาดใส เนียนนุ่มและคงความชุ่มชื้นของสภาพผิวสู่สมดุลธรรมชาติ และยังสามารถดูดซับความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกที่ติดตามรูขุมขนอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยนและสิวอักเสบต่างๆ และริ้วรอยหมองคล้ำอีกทั้งส่วนผสมของแร่ธาตุที่สำคัญยังเป็นอาหารบำรุงเซลส์ผิวและช่วยกระตุ้นเซลส์ผิวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

โคลนสุขภาพ ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100%ไม่มีส่วนผสมหรือแต่งเติมสารสังเคราะห์ของสารเคมีใดๆ จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว
รักษา